ช่วงเวลาเพียงแค่สามเดือนกว่าๆ หลังจากที่ผมได้ออกมาติดตามเยี่ยมน้องโอมที่บ้าน ร่วมกับทีมของโรงพยาบาลศรีนรินทร์ จังหวัดขอนแก่นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากนั้นทีมเยี่ยมบ้านได้ออกมาติดตามดูอาการเป็นระยะ ซึ่งในช่วงสุดท้ายน้องโอมซูบผอมไปมาก เพราะกินอะไรไม่ค่อยได้ ครอบครัวของน้องโอมเปลี่ยนชื่อเรียกใหม่เป็น "น้องกล้า" เพื่อให้เป็นขวัญและกำลังใจ ในการต่อสู้กับโรคร้าย..
ผู้อำนวยการและผม ต่างคนต่างเดินทางไปยังจุดหมายเดียวกันที่บ้านนาเจียง ซึ่งผู้คนมากมายกำลังทยอยเดินทางไปยังบริเวณเมรุท้าย ที่อยู่นอกหมู่บ้านเพื่อร่วมงานณาปนกิจศพน้องกล้า หรือน้องโอมซึ่งเสียชีวิตลงเมื่อวันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พ่อของน้องกล้าเจ้ามาทักทายพูดคุยกับผม แม้ภายนอกจะดูเข้มแข็ง แต่แววตาบ่งบอกถึงความเสียใจที่ต้องสูญเสียลูกชาย ผมบอกว่าน้องเขาไปสบายแล้วนะครับ ในความทุกข์ยังมีความสุขแฝงไว้ แม้การสูญเสียทำให้เกิดความทุกข์แต่ก็มีความสุขใจที่ลูกชายไม่ทนทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด..
พิธิศพจัดอย่างเรียบง่าย ทำให้ผมได้เห็นการช่วยเหลือเกื้อกูลกันของพี่น้อง เครือญาติ และการเมืองท้องถิ่นที่ผสมผสานอย่างลงตัวในวิถีชีวิตของคนในชุมชน หนึ่งชีวิตที่จากไปให้บทเรียนกับอีกหลายคนว่า ชีวิตนี้สั้นนักจริงๆ..
''น้ำไหลอายุขัยก็ไหลล่วง ใบไม้ร่วงชีพก็ร้างอย่างความฝัน ฆ่าชีวาคือพร่าค่าคืนวัน จะกำนัลโลกนี้มีงานใด''
อังคาร กัลยาณพงศ์