วันนี้กำหนดการออกเยี่ยมบ้านของทีมสหวิชาชีพ มีเส้นทางหมู่บ้านที่ต้องเดินทางไปตรวจเยี่ยมและประเมินการให้การดูแลคนไข้ในบริเวณหมู่บ้านใกล้เคียงบ้านของน้องกล้า จึงถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้ออกติดตามอาการและสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวน้องกล้าอีกครั้ง โจทย์ที่ตั้งไว้ก่อนไปในครั้งนี้คือ "พี่สาว"ตัวอย่างผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน เป็นปัญหาทางด้านครอบครัวที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บป่วยของน้องชาย"น้องปิ๊ค"ปัจจุบันอายุ 21ปี เรียนจบชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนมัธยมประจำอำเภอภูเรือ และได้ศึกษาต่อหลักสูตรผู้ช่วยเหลือคนไข้และการบริบาลเป็นหลักสูตรอบรมระยะเวลา 6เดือน หลังจากนั้นก็ได้เข้าทำงานในคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง ในเขตเมืองย่านรังสิต จังหวัดปทุมธานี รับหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ คอยต้อนรับคนไข้ ให้ข้อมูลคำปรึกษาเบื้องต้นก่อนพบแพทย์ที่ให้บริการภายในคลินิก คุณพ่อเล่าว่าน้องเคยสอบติดวิทยาลัยการพยาบาลแห่งหนึ่งแต่ด้วยเหตุของครอบครัวที่ต้องใช้เงินในการดูแลน้องชายที่เกิดภาวะเจ็บป่วยขึ้นในยามนั้น ทำให้ไม่สามารถส่งเสียให้น้องได้ศึกษาต่อตามที่ตนเองได้มุ่งหวังได้ การทำงานจึงเป็นทางเลือกที่น้องปิ๊คเองต้องเริ่มต้นเร็วกว่าเพื่อนร่วมรุ่นอีกหลายๆ คน
น้องปิ๊คลาออกจากงานมาได้ประมาณเดือนครึ่ง เพื่อกลับมาช่วยพ่อและแม่ดูแลน้องกล้าในฐานะพี่สาวคนเดียวในครอบครัว เพื่อที่คุณพ่อจะได้มีเวลาประกอบอาชีพ หารายได้เข้าครอบครัวอย่างเต็มที่ซึ่งก่อนหน้านี้คุณพ่อไม่สามารถออกทำงานได้อย่างปกติ เพราะต้องคอยช่วยคุณแม่ดูแลน้องกล้าผลัดเปลี่ยนกันในยามเหนื่อยล้า ทำให้ส่งผลถึงรายได้หลักของครอบครัวที่ขาดหายไป
แม้จะเสียดายทำที่เคยทำเพราะเป็นรายได้อีกทางหนึ่งในการจุนเจือครอบครัว แต่ก็ด้วยความจำเป็นในยามนี้ที่ตนเองต้องกลับมาช่วยเหลือครอบครัวและน้องชายก่อน ก็เป็นสิ่งที่ตนเองยินดีทำ ไม่อิดออดต่อการร้องขอของครอบครัวแต่อย่างใด ตอนนี้น้องได้กลายเป็นคนตกงาน ยังไม่ทราบถึงอนาคตว่าจะมีโอกาสศึกษาต่อหรือได้มีงานทำที่ไหน ก่อนหน้านี้เคยมีงานทำมีรายได้เป็นของตัวเอง ก็ย่อมเป็นธรรมดาที่ทำให้เกิดความอึดอัด และดูเบื่อหน่ายในบางครั้ง ซึ่งอาการดังกล่าวก็เห็นได้อย่างเด่นชัดบนใบหน้าของน้องปิ๊คในเวลานี้
ผมเองก็ได้แต่หวังว่าจะมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นในครอบครัวในยามนี้บ้าง อาจเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยไม่มากมายแต่ก็น่าจะเป็นกำลังใจให้มีแรงใจได้ต่อสู้เพื่อความสุขของครอบครัว ในวันต่อๆ ไป
