มีสามีคนไข้รายหนึ่งที่ทุก2-3 วันต้องแวะมาเปลี่ยนถังออกซิเจนที่โรงพยาบาล ทำอย่างนี้ติดต่อกันมากว่า 4 ปีแล้ว ผมไม่รู้ว่าในโลกนี้มีตำแหน่งสามีดีเด่นหรือไม่ ถ้ามีผมคงอยากจะขอให้แกได้ตำแหน่งนี้ไปครองโดยไม่มีเงื่อนไข..
พี่ปัดสินกับผมอาจจะเคยเจอกันในช่วงที่มารับบริการที่โรงพยาบาล แต่ผมอาจจะจำไม่ได้ จนกระทั่งมีทีมเยี่ยมบ้านขึ้นทะเบียนรายชื่อผู้ป่วยที่ต้องติดตาม และหน่วยงานศูนย์ประกันเกี่ยวข้องในเรื่องการของการดูแลค่าออกซิเจน ซึ่งทางทีมแพทย์ระบุให้ลดหย่อนค่าเปลี่ยนถังออกซิเจนจาก 250 บาท ให้คนไข้จ่ายเพียง 30 บาท/ถัง ทุกครั้งก็จะพบกับสามีพี่แกที่เดินทางมาเปลี่ยนออกซิเจนเป็นประจำ
ช่วงจังหวะพอดีกับที่ทีมเยี่ยมบ้านจะออกไปติดตาม ผมจึงให้เดียว วางแผนออกร่วมไปเยี่ยมบ้านด้วย เพราะสิ่งที่ทีมเราต้องตามไปดูนอกจากเรื่องของสุขภาพร่างกาย คือ สภาพทางเศรษฐกิจและสังคมของครอบครัวผู้ป่วย
ครอบครัวนี้มีสมาชิกอยู่ในบ้านรวมกัน 5 คน คือ พี่ปัดสิน สามี น้องชาย และพ่อแม่ ส่วนญาติพี่น้องคนอื่นๆ มีน้าสาวอยู่บ้านถัดกันไป อาชีพหลักของครอบครัวคือการทำไร่ข้าวโพด แต่ก่อนก็ช่วยกันทำ แต่ช่วงหลังตั้งแต่พี่ปัดสินล้มป่วย สามีต้องแบกภาระในเรื่องการดูแล การหารายได้มาเลี้ยงครอบครัวจึงทำได้ไม่เต็มที่
ปัญหาใหญ่ของพี่ปัดสินตอนนี้ คือ เรื่องค่ารถที่ต้องเดินทางมาเปลี่ยนถังออกซิเจน ซึ่งบางวันมีรถจาก อบต. หรือสถานีอนามัยมาช่วยในการเอาถังมาเปลี่ยนให้ แต่ก็ไม่ได้ทุกครั้ง ทำให้บางวันสามีแกต้องจ้างเหมารถมาที่โรงพยาบาล ค่าใช้จ่ายครั้้งหนึ่งก็ตกราวๆ 4-5 ร้อยบาท อาทิตย์หนึ่งก็จะต้องได้เข้ามาที่โรงพยาบาลสัก 1 ครั้ง
ส่วนปัญหาเรื่องค่าออกซิเจนได้รับการอนุเคราะห์จากทางโรงพยาบาล ก็ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายตรงนี้ไปได้เยอะ ในเรื่องของสุขภาพร่างกายจากการไปเยี่ยมครั้งล่าสุด พี่ปัดสินดูมีสีหน้าสดชื่น แต่บอกว่าขาดออกซิเจนไม่ได้เลย ต้องใส่ติดไว้ตลอด อาการอื่นๆ ก็มีเหนื่อยหอบหลังทำกิจกรรมบ้าง เท้า 2 ข้างบวม เล็กน้อย ส่วนกิจวัตรประจำวันยังทำได้เอง
กลับจากเยี่ยมบ้าน ทีมงานคงต้องมาช่วยกันคิดต่อว่าจะทำอย่างไร กับปัญหาเรื่องรถที่ต้องเหมามาเปลี่ยนถังออกซิเจนในช่วงที่รถของ อบต. หรือสถานีอนามัยไม่ว่าง ซึ่งอาจจะต้องหาวิธีการจัดการหรือภาคีเครือข่ายอื่นเข้ามาช่วยเหลือ..
เงินกองทุนพระราชทานฯ วันนี้ก็เหลือน้อยลงทุกในขณะที่ผู้ป่วยยากจนที่มีปัญหาในเรื่องภาระค่าใช้จ่าย ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ..