"มีอะไรให้ช่วยครับ" ผมยิงคำถามแรกกับญาติผู้ป่วยรายหนึ่งในเช้าของวันจันทร์ที่ 30 เมษายน 2555 ที่หน้าห้องศูนย์ประกันสุขภาพ หลังจากเปิดห้องทำงานเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือทำงานพร้อมเสร็จ พี่สำริด ที่นั่งรออยู่ตรงเก้าอี้รอตรวจบริเวณโถงอาคารผู้ป่วยนอกก็เดินเข้ามาพร้อมกับยื่นแฟ้มประวัติผู้ป่วยในทันที ด้วยใบหน้าทีมีความวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด
"ทำไมน้องผมต้องได้ชำระเงินค่ายาด้วย เงินเยอะแยะขนาดนั้นจะเอาที่ไหนมาจ่ายให้ได้"ด้วยความตกใจเกรงว่าการปฏิบัติหน้าที่ผู้พิทักษ์สิทธิผู้ป่วยของเราผิดพลาดตรงไหน ทำไมถึงมีการเรียกเก็บเงินค่ารักษาผู้ป่วยรายนี้เกิดขึ้น ผมจึงขอตัดบทโดยขออนุญาตตรวจสอบสิทธิผู้ป่วยคนนี้เสียก่อน แย่ล่ะสิผู้ป่วยมีสิทธิประกันสังคมเป็นผู้ประกันตนมีสิทธินับบริการโดยไม่ถูกเรียกเก็บนี่นา ทำไมถึงไปเรียกเก็บเงินเค้ากันล่ะนี่ ผมนึกอยู่ในใจตอนนั้นเลยต้องย้อนกลับไปยิงอีก 1 คำถามกับ"พี่ริด"ญาติผู้ป่วยรายนี้อีกครั้ง "แล้วหมอเรียกเก็บเงินค่าอะไร ที่จุดบริการไหนแจ้งเหรอครับ" ยังไม่ทันสิ้นปลายคำถามผมก็ต้องตกเป็นผู้ฟังในทันทีทันใด.....อีกครั้ง และหลังจากรับฟังเรื่องราวก็ได้รับคำตอบเรื่องราวโดยประมาณพอให้ทราบปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นกับผู้ป่วยว่า
"คุณรุ่งนภา"ผู้ป่วยผู้ถือสิทธิประกันสังคมได้เข้ารับบริการที่โรงพยาบาลศูนย์ฯ แห่งหนึ่งตามเอกสารใบส่งตัวที่ถูกออกให้อย่างถูกต้องโดยโรงพยาบาลแม่ข่ายสิทธิประกันสังคมจังหวัดแต่ถูกเรียกเก็บค่าบริการ โดยมีลำดับของปัญหาในการรับบริการดังนี้ (ข้อมูลตามที่ได้รับฟังและสอบถามจากตัวผู้ป่วยเพิ่มเติมภายหลัง)
3/2/2555
ผู้ป่วยมารับบริการที่โรงพยาบาลชุมชนฯ ตามนัด
ถูกออกใบส่งตัวเพื่อรับบริการต่อที่โรงพยาบาล จังหวัด
02/2555 รับบริการที่โรงพยาบาลจังหวัด แพทย์ส่งต่อไปรับบริการที่โรงพยาบาลศูนย์ฯ แห่งหนึ่ง
03/2555 ผู้ป่วยเดินทางไปรับบริการครั้งแรกพร้อมใบส่งตัวที่โรงพยาบาลจังหวัดออกให้รับบริการที่แต่ไม่ได้พบแพทย์
ได้รับการบริการเพียงทำบัตรใหม่ ไม่ได้รับบริการตรวจรักษา ไม่ได้รับยา
ถูกออกใบนัดให้รับบริการในวันที่ 21/3/55
21/3/2555 ได้เข้ารับบริการตามแพทย์นัด
มีรายละเอียดการตรวจสอบใบส่งตัว กล่าวคือ
- ถูกส่งตรวจตามสิทธิ
- ถูกทวงถามใบส่งตัว ณ จุดซักประวัติ (มีการเตรียมถ่ายสำเนาใบส่งตัวเพื่อรับบริการถูกเรียกเก็บใบส่งตัวไว้จำนวน 3 ชุดรวมตัวจริง คืนสำเนาให้ผู้ป่วยจำนวน 1 ชุด)
- ได้พบแพทย์ มีการออกใบนัดให้รับยาต่อเนื่อง วันที่ 24/4/55 และมีนัดให้รับการผ่าตัดวันที่ 19/6/55
- ได้รับยาและแจ้งให้ผู้ป่วยกลับบ้านโดยไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งที่ผู้ป่วยยืนยันว่าได้สอบถามถึงค่าบริการอื่นใดหรือไม่
21/4/2555 ผู้ป่วยจำต้องเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลชุมชนฯ ด้วยภาวะฉุกเฉินและถูกส่งต่อที่โรงพยาบาลทั่วไปโดยรับไว้เป็นผู้ป่วยในเป็นเวลาหลายวัน
อาการดีขึ้นแพทย์จึงสั่งให้กลับบ้าน (ช่วงเวลาเดียวกันทำให้ไม่สามารถไปรับบริการตามนัดวันที่
24/4/55 ที่รพ.ศูนย์ฯ แห่งนั้นได้)
24/4/2555 ผู้ป่วยร้อนใจเกรงไม่ได้รับยาตามที่แพทย์
รพ.ศูนย์ฯ นัดจึงโทรสอบถามเพื่อให้ญาติดำเนินการรับยาแทนในวันที่มีนัดดังกล่าว
ปรากฏว่าญาติผู้ไปติดต่อเพื่อขอรับยาตามนัดแทนถูกเรียกให้ชำระเงินค่าบริการ
โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่า “ผู้ป่วยเข้ารับบริการโดยไม่ได้สอบสิทธิ
และยาที่ใช้เป็นยานอกบัญชีหลัก” โดยแจ้งภาระให้กับผู้ป่วยดังนี้
- ค่ายาที่รับบริการในวันที่ 21/4/55 เป็นจำนวนเงิน 10,680 บาท โดยขอเรียกเก็บย้อนหลัง (ญาติไม่มีเงินชำระ)
- เป็นผลให้ ไม่มีการสั่งจ่ายยาตามที่มีการนัดวันที่ 24/4/55
- มีการนัดผู้ป่วยให้รับบริการวันที่ 22/5/55 โดยมีข้อแม้ให้ชำระหนี้คงค้างของวันที่ 21/4/55 ก่อนเข้ารับบริการอีกครั้ง
- ผู้ป่วยมีนัดเพื่อรับการผ่าตัดในวันที่ 19/6/55 ที่รพ.ศูนย์ฯ แห่งนั้นอีกครั้ง จึงสร้างความกังวลใจ และเกิดความลำบากใจที่จะต้องไปรับบริการตามแพทย์นัดอีกครั้ง
25/4/2555 ผู้ป่วยเข้ารับบริการที่
โรงพยาบาลชุมชนฯ ด้วยอาการไอเป็นเลือด มีเลือดกำเดาไหล ขาดยาที่โรงพยาบาลศูนย์ฯ
แห่งนั้นต้องสั่งจ่ายให้ในวันที่นัด 24/4/55 ปัจจุบันผู้ป่วยจำเป็นต้องนอนรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในที่โรงพยาบาลชุมชนฯ
หลังจากที่ผมได้รับแจ้งจึงดำเนินการหาข้อมูลจากญาติและผู้ป่วยเพิ่มเติม จึงร้องขอไปยังโรงพยาบาลจังหวัดให้ช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยรายนี้ ผ่านเครือข่ายงานหลักประกันสุขภาพ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับบริการอย่างถูกต้องและเป็นธรรมตามสิทธิที่พึงมีพึงได้อย่างสูงสุด การประสานงานสัมฤทธิ์ผลลงด้วยว่า โรงพยาบาลศูนย์ฯ ที่เกิดเหตุยินดีให้บริการผู้ป่วยรายนี้โดยไม่มีการเรียกเก็บเงินแต่อย่างใดตามหนังสือส่งตัวที่ได้รับเอาไว้ตั้งแต่ครั้งแรก และยอมรับเป็นเหตุความผิดพลาดที่เกิดในการประสานงานของบุคลากรในโรงพยาบาลศูนย์ฯ แห่งนั้นเอง ไม่เกี่ยวข้องกับกรณีผู้ป่วยขอใช้สิทธิรับบริการตามใบส่งตัวอย่างถูกต้อง
เมื่อได้ดำเนินการให้ได้มาซึ่งสิทธิในการเข้ารับบริการของผู้ป่วยที่พึงจะได้รับเรียบร้อย จึงแจ้งไปยังผู้ป่วยและบรรดาญาติของผู้ป่วยรายนี้ที่รอคอยคำตอบด้วยใจจดจ่อ เพื่อทราบให้ได้คลายความวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวลง สามารถเดินทางไปรับบริการตามที่แพทย์นัดด้วยความสบายใจ ต่อไป